“เจอนี่ journey” เมื่อหลาย quests โคจรมาเจอกัน
งาน Renovate ร้านเจอนี่ เป็นหนึ่งในงานที่เกิดขึ้นรวดเร็วมาก และใช้เวลาสั้นมาก ๆ ตั้งแต่การออกแบบและติดตั้งงานตกแต่งจนแล้วเสร็จเพียงเดือนเศษ ๆ
ด้วยโจทย์สั้น ๆ แต่สำคัญยิ่ง สำหรับทุกธุรกิจร้านอาหารในช่วง COVID-19 คือ “minimum invest, maximum impact” เราจะออกแบบตกแต่งภายในร้านอาหาร เพื่อฟื้นร้านนี้ขึ้นใหม่อย่างไร หลังจากกิจการซบเซาจนต้องปิดชั่วคราว เพราะพิษโควิค ด้วยเงินลงทุนและเวลาที่จำกัด!!
มีโจทย์หลายข้อที่เราต้องตอบให้ได้ เพื่อที่จะปรับปรุงร้านให้รันแล้วมีกำไร สวนกระแสสภาวะซบเซาของธุรกิจนี้ เช่น
โจทย์แรก คือ เอกลักษณ์ของร้าน จากร้านกาแฟเดิมที่เป็นที่นิยมของนักปั่นจักรยาน เราจะยังรักษาความเป็น “JOURNEY” แต่ให้น้ำหนักกับ “เจอนี่” มากขึ้น กล่าวคือ ให้ลูกค้าเดิมยังถูกใจ และต้องดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เช่น นักศึกษา หนุ่มสาววัยทำงาน และคู่รักเข้ามาด้วย นักออกแบบจึงเลือกที่จะดีไซน์ต่อยอดจากเอกลักษณ์เดิมของร้านจาก “Handsome” เป็น “Smart”
โจทย์ที่สอง “กระสุนมีจำกัด ต้องใช้อย่างประหยัด ยิงออกไปแล้วต้องโดน!” จึงเห็นได้ว่า การตกแต่งหลาย ๆ อย่างในร้าน คือการ recycle ใช้ของเดิม ปรับปรุง ดัดแปลง เช่น เฟอร์นิเจอร์โต๊ะเก้าอี้ใช้ของเดิมหมด ซ่อม ทำสี ปิดคิ้วทองเหลือง แล้วจัดวางlayoutใหม่, เคาน์เตอร์บาร์ใช้ของเก่าพ่นสีใหม่เพิ่มแสงสว่างเข้าไปให้เด่น, โคมไฟเกือบทั้งหมดเป็นของเก่า เราซ่อม ดัดแปลงโคม เปลี่ยนหลอดให้ได้แสงสีและองศาแสงที่ lighting designer ต้องการ, พ่นสีราวแขวนโคมไฟเดิมเป็นสีทอง ฝ้าเพดานเดิมของร้าน เป็นสังกะสีพ่นกราฟฟิตี้ เราก็รื้อมากลับแผ่นเป็นหน้าบีขึ้นไปติดแทน ฯลฯ เราบอกตัวเองว่า “ดีไซน์ประหยัดเงิน แต่ต้องไม่ประหยัดไอเดีย”
โจทย์สำคัญ การปรับร้านจากเดิมที่เป็นร้านกาแฟที่มีแฟนประจำเป็นนักปั่นอยู่แล้ว ให้เป็น Mix-used เช้าขายกาแฟ+breakfast, เที่ยง และเย็นเสิร์ฟอาหารฟูลคอร์ส, ยามค่ำนั่งชิลล์ กินดื่มได้ครบ พร้อมดนตรีสด จัด Private partyได้ เพื่อเพิ่มเวลาขาย ขยายสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ
การจะทำร้านให้รองรับลูกค้าได้หลายกลุ่ม เปิดขายได้หลายช่วงเวลา เช่นนั้น นอกจากเราต้องทำให้ร้านมีครัวที่ยืดหยุ่นทำอาหารได้ เมนูฟังก์ชันในการนั่งก็ต้องหลากหลาย ปรับเปลี่ยนได้ และบรรยากาศของร้านต้องสามารถปรับเปลี่ยนไปตามฟังก์ชันได้อีกด้วย
ดังนั้นเราจึงใช้ Lighting design มาช่วยในการเปลี่ยนLookภายในร้านจากเดิมที่ทึมสลัว ให้สว่างไสวดูโปร่งขึ้น และดีไซน์ Lighting ให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 scheme คือ Morning Coffee ยามสาย, Dining มื้อเที่ยงและเย็น, และ Chill out ยามค่ำ
โจทย์อีกข้อในการออกแบบ กล่าวคือ ร้านต้องสวยทั้งสองมิติ มิติแรก คือ ลูกค้านั่งแล้วต้องถูกใจในบรรยากาศและความสวยของร้านจนอยากนั่งนาน และกลับมาบ่อย มิติที่สองคือมีมุมสวยให้ถ่ายรูป ลูกค้าselfieออกมาก็ต้องสวย เพราะนี่คือเครื่องมือการตลาดบอกต่อที่สำคัญของร้านยุคนี้
ดังนั้นสิ่งที่เราต้องคำนึงมากขึ้นในการออกแบบก็คือ สร้างมุมที่มีองค์ประกอบในภาพครบถ่ายรูปสวย และ แสงภายในร้านต้องสว่างเพียงพอต่อการถ่ายรูปด้วยมือถือ อีกทั้งทิศทางและสีของแสงต้องทำให้ผิว(หน้า)สวยในภาพอีกด้วย
ไอเดียการใช้ต้นไม้ในการตกแต่งร้าน เป็นที่ถกเถียงกันมากในช่วงแรก เพราะความไม่มั่นใจว่าเราจะดูแลรักษาต้นไม้ให้อยู่ยาวยืนยงกันไหว แต่สุดท้ายเจ้าของร้านก็ตัดสินใจทำ โดยให้เหตุผลกับเราว่า “ต้นไม้เป็น universal design มันไม่มีวัน OUT” จึงเป็นที่มาของ concept ข้อหนึ่งในการออกแบบตกแต่งร้านอาหารแห่งนี้ นั้นก็คือ ทำร้านให้เป็น Oasis ของลาดกระบัง
ร้านนี้สวยได้ เพราะเจ้าของ
การที่โครงการออกแบบตกแต่งภายในครบวงจรโครงการหนี่ง จะประสบความสำเร็จในด้านสุนทรียภาพทางสถาปัตยกรรมที่ดีได้นั้น สิ่งสำคัญไม่ใช่เพียง ไอเดียดี+มีเงินลงทุนงานนี้สำเร็จได้ด้วยดี ในงบประมาณและเวลาที่จำกัดมาก ๆ ต้องยกความดีความชอบให้กับเจ้าของโครงการ ที่เห็นถึงคุณค่าของงานดีไซน์ และมีส่วนร่วมในทุก ๆ ขั้นตอนการออกแบบ ช่วยเสนอไอเดีย และยังให้อิสระดีไซน์เนอร์ในสร้างสรรค์งานอีกด้วย
ขอบคุณ เจ้าของโครงการ ที่ให้โอกาสเราได้แสดงฝีมือในงานออกแบบและตกแต่งภายใน อีกทั้งการที่ทีมงานบริหารร้านของเจ้าของและทีมตกแต่งของเราได้ช่วยเหลือ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันในหลาย ๆ ด้าน ทำให้เราทุกคนเก่งขึ้นและทำงานเข้าขากันได้ดีขี้น สำหรับเราถือเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจ ที่ได้มีส่วนร่วมในร้านนี้ครับ
Project : เจอนี่ Café I Eatery I Bar
Location : Larkrabang, Bangkok
Owner : Special Dow Family
Interior architect : teem studio design
Lighting designer : Pornchai S.
Credit ภาพ : teemgroup.com